ชวนมาดู 4 ขั้นตอนเปิดร้านค้าออนไลน์ ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง 04/Sep/2024 12:00 PM

เมื่อโลกได้ก้าวข้ามข้อจำกัดทางด้านพื้นที่และเวลา ร้านค้าออนไลน์จึงเป็นหมุดหมายในฝันสำหรับผู้ประกอบการหลายคน ยิ่งทุกวันนี้มีคนเปิดร้านค้าบนออนไลน์กันมากขึ้น ก็ยิ่งดึงดูดเหล่าพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ให้เห็นว่าการเปิดร้านค้าบนอินเทอร์เน็ตที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนมากมายเท่าเดิม และคงไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ในความจริงแล้ว การจะเปิดร้านออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จสักร้านหนึ่ง อาจต้องใช้การวางแผนที่รอบคอบ และเตรียมตัวให้ดีมากกว่าแค่คิดแล้วลงมือทำเลย ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของเราไป ในวันนี้จึงจะมาแนะนำ 4 ขั้นตอนง่าย ๆ สำหรับการสร้างร้านออนไลน์ของตัวเองให้ประสบความสำเร็จมากที่สุด

1. วางแผนและเตรียมตัวเปิดร้านออนไลน์

ก่อนจะไปถึงขั้นสร้างร้านออนไลน์อย่างจริงจัง แน่นอนว่าเราควรเริ่มจากการวางแผนและเตรียมตัวเปิดร้านออนไลน์ให้ดีและครอบคลุมเสียก่อน โดยมีสิ่งที่ควรพิจารณาหลัก ๆ ดังต่อไปนี้

รู้จักกลุ่มเป้าหมาย

เริ่มจากการรู้จักกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง เพราะยิ่งเรารู้จักกับกลุ่มผู้บริโภคมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีโอกาสในการสร้างธุรกิจออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น โดยเริ่มจากพิจารณาก่อนว่าตนเองมีแนวของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการวางจำหน่ายหรือไม่ ถ้ามีอยู่แล้ว ให้เริ่มเจาะลึกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจากจุดนั้น

แต่ถ้ายังไม่มีก็อาจเริ่มพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมายที่ตัวเองคุ้นเคยมากที่สุด ซึ่งอาจเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในแวดวงผู้บริโภคเดียวกัน มีความชอบเหมือนกัน และให้ความสำคัญกับสิ่งต่าง ๆ เช่นเดียวกัน

กลุ่มเป้าหมาย จะเป็นแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยม ให้กับการทำธุรกิจ และเป็นเครื่องเตือนใจอยู่เสมอว่าคุณดำเนินธุรกิจนี้เพราะอะไรและเพื่อใคร ซึ่งจะกลายเป็นธงสำคัญที่ปักให้เห็นเส้นทางการทำการตลาด รวมถึงการตัดสินใจอื่น ๆ ต่อไป

หาสินค้า

หลังจากเห็นถึงกลุ่มเป้าหมาย ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการหาสินค้าที่ต้องการนำวางจำหน่ายและศึกษาข้อมูลสินค้าให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อเป็นการตรวจสอบคุณภาพของสินค้าเปลาะหนึ่ง รวมถึงเป็นโอกาสในการทำความรู้จักตัวผลิตภัณฑ์ สำหรับการตอบข้อสงสัยของผู้บริโภค โดยอาจเลือกสินค้าจากความสนใจของตนเองหรือตลาด เช่น

• เลือกสินค้าที่ตรงกับความสนใจ ช่วยเสริมเรื่องของแพชชั่น สู่การเป็นกูรูที่รู้ลึก รู้จริง และต่อยอดกับผลิตภัณฑ์นั้นได้อย่างตรงจุด
• เลือกสินค้าที่กำลังได้รับความนิยม สต๊อกหาง่าย ขายคล่อง แต่อาจจะต้องปรับตัวให้ตามเทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเสมอ และมีข้อระวังเรื่องคู่แข่งจำนวนมหาศาลในตลาด
• เลือกสินค้าที่มีเอกลักษณ์ เช่น ของทำมือ หรือสินค้าที่ออกแบบเอง สร้างความแตกต่างให้กับตลาด แต่อาจต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการผลิตและทำให้ติดตลาด จึงต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการโปรโมต

นอกจากเรื่องของตัวสินค้าแล้ว สิ่งที่จะลืมคำนึงถึงไม่ได้ คือ เรื่องของเงินทุนที่ต้องคำนวณค่าผลิต การขนส่ง และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ ให้ครอบคลุม รวมไปถึงเรื่องของคีย์เวิร์ดในการค้นหาซึ่งสำคัญมากสำหรับการสร้างร้านค้าบนออนไลน์ ดังนั้นไม่ว่าสินค้าจะต้องการความแปลกใหม่หรือแหวกแนวแค่ไหนก็ตาม ก็ควรตั้งชื่อให้ง่ายต่อการค้นหา เพื่อให้ลูกค้าหาร้านของเราเจอด้วย

สร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ

การเตรียมตัวขั้นสุดท้าย คือ การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำและโดดเด่นมากพอสำหรับตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่างตลาดการขายของออนไลน์ โดยสิ่งที่ต้องคำนึงไม่ใช่เพียงแค่ความแปลกใหม่ สะดุดตา แต่ควรที่จะต้องสื่อสารและเป็นที่จดจำง่ายในหมู่ของสินค้าประเภทนั้น ๆ

ยกตัวอย่างเช่น การตั้งชื่อร้านค้าบนอินเทอร์เน็ตที่ดีควรจะมีทั้งเอกลักษณ์แสดงตัวตนของร้านชัดเจน แต่ก็ต้องคุ้นหู เป็นที่จดจำได้ง่าย และที่สำคัญ คือ ต้องค้นหาได้ง่าย เช่นกัน ซึ่งอาจทำได้ด้วยการตั้งชื่อให้มีความสัมพันธ์กับสินค้าที่ต้องการขาย เพื่อให้คนที่สนใจเสิร์ชเจออย่างไม่ยากลำบากจนเกินไป

ขณะที่ตัวโลโก้แบรนด์ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนสะดุดตาได้ ดังนี้จึงควรออกแบบให้มีความโดดเด่น และสื่อสารให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ตั้งใจวางไว้ ผ่านการใช้ฟอนต์และสี รวมถึงการจัดวางที่เหมาะสม

2. เริ่มสร้างร้านค้าบนออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณ

เมื่อวางแผนเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มสร้างร้านค้าบนออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณ โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับธุรกิจ

อันดับแรก ต้องเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับธุรกิจ ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการ รวมถึงข้อจำกัดของแต่ละคน เช่น ในระยะแรกหากต้องการเริ่มเปิดร้านค้าเล็ก ๆ ของตัวเองเพื่อขายสินค้า โดยยังไม่ได้มีต้นทุนเยอะ ก็อาจเลือกใช้ช่องทาง Marketplace หรือ Chat&Shop ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียไปก่อน อย่างไรก็ตาม หากต้องการสร้างแบรนด์ให้โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ ก็ขอแนะนำให้สร้างเว็บไซต์แพลตฟอร์มของตัวเอง ซึ่งเป็นประโยชน์มากกว่าทั้งในแง่ของความน่าเชื่อถือ และในแง่ของการเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค

นอกจากนี้ควรคำนึงถึงภาพรวมของธุรกิจในอนาคต เพราะบางแพลตฟอร์มสามารถตอบโจทย์ของเราได้แค่ในปัจจุบัน แต่ไม่สามารถขยับขยายให้ดีขึ้นในวันข้างหน้าได้ ดังนั้นหากต้องการสร้างธุรกิจออนไลน์ที่ดำเนินการได้ยาวนานก็ควรเริ่มจากการมองภาพให้ชัด และมองหาแพลตฟอร์มที่มีความเสถียรและขยับขยายได้ เพื่อความมั่นคงในอนาคตนั่นเอง

ออกแบบร้านค้า

การออกแบบร้านค้า ในที่นี้ขอมุ่งไปที่การสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง เนื่องจากเป็นช่องทางที่ค่อนข้างมีอิสระและปรับแต่งได้มากที่สุด โดยการออกแบบหน้าเว็บไซต์ ไม่เพียงแต่ต้องมีความน่าสนใจ ดึงดูด และแสดงตัวตนของแบรนด์ออกมาอย่างเต็มที่เท่านั้น แต่ควรที่จะคำนึงถึงการใช้งาน ให้ลูกค้าใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกด้วย ตัวอย่างเช่น ในด้านการดีไซน์เอง เว็บไซต์ที่ดีไม่ควรใช้สีและฟอนต์ที่อ่านยากชวนปวดหัว แม้จะโดดเด่นมากก็ตาม

ในขณะเดียวกัน ตัวหน้าเว็บไซต์ควรมีปุ่มที่ชัดเจนและเป็นระบบในการกดเรียกดูสินค้า เรียกชำระเงิน หรือเรียกดูประวัติการสั่งซื้อสินค้าได้ง่าย อีกทั้งหน้าเว็บไซต์ยังต้องตอบโจทย์สำหรับการแสดงผลทั้งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ตโฟน เพื่อให้ผู้บริโภคดูเว็บไซต์ได้สะดวกไม่ว่าจะเข้าถึงผ่านอุปกรณ์ใดก็ตาม

จัดเรียงสินค้า

การจัดเรียงสินค้าในเว็บไซต์ร้านค้า นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการอำนวยความสะดวกลูกค้าให้หาผลิตภัณฑ์ที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ เช่น การแบ่งหมวดหมู่สินค้าตามประเภท ลักษณะการใช้งาน รวมกลุ่มสินค้ามาใหม่หรือเป็นที่นิยม เช่นนี้ก็จะช่วยให้ผูบริโภคหาสินค้าที่ตอบโจทย์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

และอย่างที่กล่าวไปว่าควรออกแบบเว็บไซต์ขายสินค้าให้มีความเป็นระบบ การใส่ปุ่มสำหรับกดย้อนกลับไปสู่หน้าก่อนจึงสำคัญ เพื่อเพิ่มเติมประสบการณ์ดี ๆ ในการช็อปปิงของลูกค้า ไม่ให้การย้อนกลับไปหมวดหมู่เดิมที่สนใจยากจนเกินไป

นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังอาจเพิ่มเติมระบบการเสิร์ชคีย์เวิร์ดเพื่อการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่รวดเร็วขึ้น รวมถึงอาจเพิ่มเติมการจัดเรียงสินค้าตามตัวอักษร เป็นอีกทางเลือกในการหาสินค้าได้

ตั้งค่าการชำระเงิน

เมื่อเลือกเปิดร้านค้าบนอินเทอร์เน็ต ผู้ประกอบการควรตั้งค่าการชำระเงินให้หลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจตัวเองได้ขยับขยายอย่างไม่มีขีดจำกัด โดยในปัจจุบัน ตัวเลือกช่องทางการชำระเงินที่ได้รับความนิยมได้แก่

• บัตรเครดิต/บัตรเดบิต
• การโอนเงินผ่านธนาคาร และ QR Payment
• ดิจิทัลวอลเล็ต เช่น Paypal
• การชำระเงินสดเมื่อได้รับสินค้า

วิธีการเหล่านี้เป็นสิ่งที่แพลตฟอร์มหลาย ๆ แพลตฟอร์มได้เตรียมการไว้ให้เบื้องต้นแล้ว เพียงแต่ผู้ประกอบการต้องแสดงความจำนงและเปิดบัญชีเพื่อรองรับการเงินในหลาย ๆ ช่องทางเท่านั้น

ตั้งค่าการจัดส่ง

ในการตั้งค่าการจัดส่ง ผู้ประกอบการควรมีหน้าต่างสำหรับการกรอกข้อมูลที่อยู่จัดส่งสินค้าที่สะดวกและบันทึกได้สำหรับการสั่งซื้อครั้งต่อไป และควรมีทางเลือกวิธีการจัดส่งที่หลากหลาย ชี้ให้เห็นจุดเด่นและจุดด้อยของการขนส่งแต่ละรูปแบบอย่างชัดเจน ทั้งการขนส่งในและนอกประเทศ เช่น หากขนส่นนอกประเภท อาจมีบริการทั้งการส่งทางเรือและอากาศ ซึ่งมีค่าบริการต่างกัน ทั้งนี้ผู้ขายก็ควรอธิบายว่าการส่งแบบไหนใช้ระยะเวลาจัดส่งเร็วกว่า ซึ่งจะตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกวิธีการที่ตอบโจทย์มากที่สุด

3. วางแผนการตลาด

เมื่อมีหน้าร้านออนไลน์แล้ว ขั้นต่อไปจึงเป็นการวางแผนการตลาด ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น

สร้างช่องทางออนไลน์

สร้างช่องทางออนไลน์ เช่น เพจ Facebook หน้า Instagram หรือช่อง Tiktok ของแบรนด์ เพื่อเป็นการโปรโมตสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าว โดยอาจเลือกเน้นไปที่แพลตฟอร์มที่มีแนวโน้มว่ากลุ่มเป้าหมายจะอยู่มากที่สุด และคอยอัปเดตข้อมูลต่าง ๆ ของแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์

โดยการสร้างคอนเทนต์สำหรับแต่ละช่องทาง ต้องทำความเข้าใจถึงธรรมชาติและบทบาทของแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ยกตัวอย่างเช่น หากเลือก Instagram ก็ควรทำคอนเทนต์ที่มีรูปสวยหรือคลิปวิดีโอสั้นดึงดูดใจ แต่ถ้าเป็นช่องทาง X (Twitter) ก็อาจเน้นที่ข้อความที่กระชับและรีวิวจากผู้ใช้จริง

สร้างคอนเทนต์

การสร้างคอนเทนต์ เช่น การทำ SEO นับเป็นอีกกลยุทธ์ทางการตลาดน่าสนใจ และทำให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน ด้วยการปรับแก้หน้าเว็บไซต์ให้เข้าเกณฑ์ของ Search Engine พร้อมปรับปรุงเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพ ถูกต้อง ตอบปัญหาคาใจของลูกค้าได้ เท่านี้เว็บไซต์ร้านค้าของเราก็มีศักยภาพมากพอในการติดหน้าแรกของการค้นหา เมื่อมีการเสิร์ชคีย์เวิร์ดสินค้าที่ต้องการ โดยไม่ต้องใช้เงินจ่ายเพื่อดันโฆษณาแล้ว การติดอันดับต้น ๆ เมื่อเสิร์ชมีข้อดี คือ ช่วยในรื่องของการมองเห็น ทำให้ลูกค้ากดเข้ามาและตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์อีกด้วย

ใช้เครื่องมือโฆษณาออนไลน์

เลือกใช้เครื่องมือโฆษณาออนไลน์ให้เหมาะสม เป็นต้นว่า หากตัวร้านค้าเน้นที่เว็บไซต์เป็นสำคัญ อาจมีการจ่ายเงินซื้อโฆษณา Pay Per Click ให้หน้าเว็บไซต์ติดอยู่อันดับบน ๆ ของ Search Engine ในช่วงเทศกาลพิเศษ ช่วงออกสินค้าใหม่ หรือช่วงที่กำลังจัดโปรโมชั่น ให้ลูกค้าเห็นและเข้าถึงได้อย่างสะดวก

ขณะที่ในตัวแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเอง ก็สามารถทำ Banner Advertising เพื่อเพิ่มการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ว่าแบรนด์เราขายสินค้าอะไร และมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ก่อนจะปิดท้ายด้วยปุ่ม Call To Action เพื่อกระตุ้นการกดสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งนี้การใช้เครื่องมือโฆษณาออนไลน์ควรมีการเก็บข้อมูลหลังบ้านไว้เสมอ เพื่อดูประสิทธิภาพของเครื่องมือต่าง ๆ เทียบกับค่าใช้จ่าย รวมถึงดูแนวโน้มของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง

สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เป็นอีกวิธีที่จะช่วยสร้างความจงรักภักดีที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ซึ่งส่งผลให้แบรนด์มีความมั่นคงในระยะยาว และทำให้ลูกค้าเองมีความรู้สึกเชื่อมั่น ภูมิใจ และวางใจในการเลือกใช้สินค้าของตัวแบรนด์ ไม่ว่าจะผลิตสินค้าใดออกมาก็ตาม การจะสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าผ่านทางโซเชียลมีเดีย สามารถทำได้ เช่น การแบ่งปันเรื่องราวการเริ่มต้นของแบรนด์ให้ลูกค้ารู้ การถามคำถามร่วมสนุกให้ลูกค้าได้แบ่งปันไอเดีย ไปจนถึงการออกกิจกรรมให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมแบ่งปันคำตอบหรือกดไลก์ กดแชร์ เพื่อลุ้นรับรางวัล

นอกจากนี้ แบรนด์ยังต้องคำนึงถึงคุณภาพของสินค้าและบริการที่มีประสิทธิภาพ ต่อเนื่องไปสู่เรื่องบริการหลังการขาย และดูแลลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียมเสมอต้นเสมอปลายเสมอ เท่านี้ลูกค้าก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากแบรนด์เราแน่นอน

4. บริหารจัดการร้านค้าอย่างต่อเนื่อง

สิ่งที่ยากกว่าการเปิดร้านค้า คือ การบริหารจัดการร้านค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ร้านค้ามีความน่าเชื่อถือ ตามทันทุกเทรนด์ความเปลี่ยนแปลง และประสบความสำเร็จในทุกช่วงการเปลี่ยนผ่านเสมอ สิ่งที่ต้องคอยให้ความใส่ใจอยู่ตลอดเวลา ได้แก่

ติดตามยอดขาย

คอยติดตามยอดขายสินค้าแต่ละชนิด เพื่อจับตาดูแนวโน้มของผู้บริโภคในขณะนั้น และนำกลับมาบริหารสต๊อกหรือการสั่งผลิตสินค้าชิ้นนั้น ๆ ทั้งยังสามารถนำเอาข้อมูลยอดขายมาจัดเป็นโปรโมชั่นให้กับลูกค้า ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการซื้อได้ด้วย

ให้บริการลูกค้า

ร้านค้าบนออนไลน์ที่ดี ควรเตรียมพร้อมให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่เท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งในแง่ของการนำเสนอข้อมูล ตอบปัญหาเกี่ยวกับสินค้าและบริการต่าง ๆ ช่วยดำเนินการสั่งซื้อให้สำเร็จลุล่วงอย่างมืออาชีพ รวมถึงคอยจับตาดูเสมอว่าเว็บไซต์ของเรายังสามารถใช้งานได้ดีไหม หากล่มก็ควรแก้ไขโดยด่วนไม่ปล่อยไว้เป็นเวลานาน ซึ่งการดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่ นอกจากจะตอบโจทย์ในด้านการสร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้ผู้ใช้บริการแล้ว ยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้ร้านค้าอีกทางหนึ่งเช่นกัน

บริหารสินค้าคงคลัง

การบริหารสินค้าคงคลัง นอกจากจะช่วยให้การซื้อขายสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีหยุดชะงักด้วยเหตุของสินค้าไม่พอจำหน่ายแล้ว ในทางหนึ่งยังอาจช่วยลดการขาดทุนจากปัญหาสินค้าค้างสต๊อกด้วย เพราะการตรวจสอบและบริหารคลังสินค้าอยู่เสมอ จะช่วยให้เห็นถึงแนวโน้มของการจำหน่ายสินค้า ต่อยอดสู่การบริหารจัดการสั่งซื้อและการวางแผนการตลาดเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ปรับปรุงร้านค้าอย่างสม่ำเสมอ

ปรับปรุงร้านค้าอย่างสม่ำเสมอให้ตรงกับเทรนด์และความต้องการของลูกค้าในช่วงเวลาต่าง ๆ เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการจับตลาดออนไลน์ที่มีการอัปเดตอย่างรวดเร็วเสมอ เพราะหากเราสามารถปรับตัวและอัปเดตเทรนด์ของร้านตัวเองได้ไว นั่นก็หมายถึงโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่าและทำให้การแข่งขันในตลาดออนไลน์เป็นไปได้อย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดชะงัก

ยิ่งไปกว่านั้น เว็บไซต์ร้านค้า อาจปรับปรุงตัวเองในด้านของดีไซน์ให้มีความทันสมัยเสมอ ร่วมด้วยการอัปเดตข้อมูลและโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้เป็นข้อมูลล่าสุด พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น virtual try on หรือระบบแชตบอตมาใช้อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เท่านี้ก็จะสามารถดึงดูดใจให้คนเข้ามาใช้บริการได้แล้ว

สรุป

การเปิดร้านค้าออนไลน์ที่ดูว่าสามารถทำได้ง่าย ๆ อาจมีรายละเอียดมากมายที่ช่วยเสริมให้ร้านค้าหนึ่ง ๆ เป็นร้านค้าที่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าหากรู้ขั้นตอนที่กล่าวไว้ข้างต้นทั้งหมดแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะสร้างร้านออนไลน์ที่มีคุณภาพได้อย่างยั่งยืน และหากตั้งใจทำจริง ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินเอื้อมของพ่อค้าแม่ขายทุก ๆ ท่านแน่นอน