เผยกลเม็ด เริ่มธุรกิจออนไลน์อย่างไรให้โตไวด้วย Ecommerce Platform 02/Oct/2024 12:00 PM

เผยกลเม็ด เริ่มธุรกิจออนไลน์อย่างไรให้โตไวด้วย Ecommerce Platform

02/10/2024
ร้านค้าออนไลน์
02/Oct/2024 12:00 PM

เผยกลเม็ด เริ่มธุรกิจออนไลน์อย่างไรให้โตไวด้วย Ecommerce Platform

ผู้ประกอบการที่ต้องการจะประสบความสำเร็จในโลกยุคดิจิทัลทุกวันนี้ต่างรู้ดีว่า การมีตัวตนบนโลกออนไลน์นับเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญมากสู่ความสำเร็จ เพราะนี่นับเป็นการเพิ่มโอกาส ขยายศักยภาพ รวมถึงสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าขึ้นอีกระดับ ทว่าท่ามกลางตลาด ecommerce ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด การจะขึ้นเป็นแบรนด์อันดับต้น ๆ อาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก… แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากหากรู้เคล็ดลับสำคัญต่อไปนี้ ที่จะช่วยให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ในบทความนี้ เราจะพามาเจาะลึกถึงทริกสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้แบรนด์ของเราเติบโตก้าวกระโดดทิ้งห่างคู่แข่ง พร้อมแนะนำ Ecommerce Platform ที่เหมาะสมสำหรับการสู้ศึกในครั้งนี้โดยเริ่มจาก


e-commerce


1.วิเคราะห์คู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน

เริ่มจากการวิเคราะห์คู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันที่กำลังเข้ามาเจาะกลุ่มผู้บริโภคในโลกอินเทอร์เน็ตเช่นเดียวกับเรา ดังสุภาษิตที่ว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” การเรียนรู้กลยุทธ์ของร้านค้าอื่น ๆ ช่วยให้เรามองเห็นจุดเด่นและข้อจำกัดที่สามารถนำมาพัฒนา ปรับให้เข้ากับแผนของแบรนด์เราได้ หากต้องการก้าวนำคู่แข่งไปหนึ่งก้าวเสมอ สิ่งหลัก ๆ ที่ต้องรู้ไว้ เพื่อนำไปพัฒนาแบรนด์ของเรา ได้แก่

1.1 ศึกษาข้อมูลสินค้าและบริการ

ศึกษาข้อมูลสินค้าและบริการของแบรนด์คู่แข่ง เช่น ราคาของผลิตภัณฑ์ในแวดวงเดียวกัน เพราะราคานับเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคมักเลือกเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อเสมอ การมีข้อเสนอราคาที่ดีที่สุดจึงนับเป็นแต้มต่อที่จะทำให้แบรนด์มียอดขายมากขึ้น ขณะเดียวกัน เราอาจต้องศึกษาและวิเคราะห์คำอธิบายสินค้าและบริการของคู่แข่งควบคู่ไปด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าวิธีการอธิบายสินค้าของเราสามารถชูสินค้าให้มีความโดดเด่นขึ้นมากกว่าเจ้าอื่น ๆ รวมถึงอาจพิจารณาจากรูปแบบภาษาที่ใช้ คำหลัก และโครงสร้างของเนื้อหาเพื่อพัฒนาการอธิบายสินค้าของเราให้ดียิ่งขึ้น

1.2 ดูกลยุทธ์การโฆษณา

ดูกลยุทธ์การโฆษณาของธุรกิจคู่แข่งอยู่เสมอ อาจพิจารณาจากแพลตฟอร์มที่พวกเขาใช้ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น บางอุตสาหกรรมเลือกลงทุนในสื่อโซเชียลมีเดีย ขณะที่อีกแวดวงอาจเลือกลงทุนทางเว็บไซต์มากกว่า การวิเคราะห์ช่องทางที่คู่แข่งใช้ นอกจากจะช่วยให้เราลงเล่นถูกสนามแล้ว ยังมีส่วนในการนำทางตัวแบรนด์ไปหากลุ่มของผู้ซื้อกลุ่มใหญ่อย่างถูกจุดด้วย

เมื่อพิจารณาถึงแพลตฟอร์มที่ใช่เรียบร้อยแล้ว ลำดับถัดไปก็มาเจาะลึกกันต่อว่าแบรนด์อื่นเขามีลูกเล่นในการดึงดูดผู้บริโภคอย่างไร อาจเป็นการนำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจ การจัดกิจกรรมเรียกยอดการมีส่วนร่วม หรือการเลือกใช้คีย์เวิร์ดหลัก เพื่อนำมาปรับใช้กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของเราเอง

1.3 สังเกตความคิดเห็นของลูกค้า

อย่าลืมสังเกตความคิดเห็นของลูกค้าแบรนด์คู่แข่งบนหน้าเพจหรือเว็บไซต์ เพราะนี่คืออีกหนึ่งขุมทรัพย์ชั้นดีที่จะทำให้เรารู้จักสินค้าหรือบริการของอีกฝ่ายลึกยิ่งขึ้น ทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน ซึ่งเราสามารถเก็บข้อมูลเหล่านี้มาพัฒนาและปรับปรุงสินค้าของเราให้ดีขึ้นและปราศจากข้อผิดพลาดอย่างที่อีกฝ่ายมีได้

2.วางแผนเป้าหมายธุรกิจให้ชัด

ถัดมา คือ แบรนด์จะต้องวางแผนเป้าหมายธุรกิจให้ชัดเจนด้วยการเขียนแผนธุรกิจ (Business Plan) ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจทุกรูปแบบให้สำเร็จ เพื่อระบุแผนดำเนินงานสำคัญของธุรกิจ วัดผลลัพธ์ตามระยะการดำเนินการ และใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับการบริหารธุรกิจในภาพรวมให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ การมีแผนธุรกิจที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจ ก็เหมือนกับการมีเข็มทิศที่จะนำทางทุกคนในองค์กรไปสู่ความสำเร็จ โดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก

การทำแผนธุรกิจ จะเริ่มจากการวิเคราะห์ SWOT Analysis ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ดูจุดแข็ง จุดอ่อนของบริษัท ร่วมกับโอกาสและภัยคุกคามจากภายนอกที่มีผลต่อกระทบต่อการดำเนินการของบริษัท และต้องมีการกำหนดเป้าหมายขององค์กรเป็นจุดสำคัญ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าในแต่ละปี เราจะทำอะไร เพื่อวัตถุประสงค์ใด ซึ่งควรเป็นการกำหนดเป้าหมายที่พนักงานทุกคนจะมีส่วนร่วม ให้เกิดความเข้าใจและมีพันธสัญญาร่วมกัน โดยองค์ประกอบหลักในการเขียนแผนธุรกิจมีดังต่อไปนี้

  • บทสรุปสำหรับผู้บริหาร (Executive Summary) : บทสรุปใจความสำคัญของแผนธุรกิจทั้งหมด เน้นความสั้น กระชับ ตรงประเด็น เพื่อให้เห็นภาพสำคัญ เช่น เป้าหมาย วิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และแผนการเงิน เพื่อใช้ในการขอทุนจากนักลงทุน หรือเพื่อให้ผู้บริหารพิจารณาอนุมัติแผนงาน
  • คำอธิบายธุรกิจ (Company Description) : ส่วนที่อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจ ทั้งความเป็นมา ประเภท รูปแบบ กลุ่มเป้าหมาย รวมถึงควรมีจุดเด่นหรือข้อได้เปรียบของธุรกิจระบุไว้ร่วมด้วย
  • การวิเคราะห์ตลาด (Market Analysis) : ส่วนที่อธิบายถึงสภาพของตลาดที่เราไปศึกษา เช่น ขนาดของตลาด แนวโน้มการเติบโต เทรนด์ปัจจุบัน โอกาสและอุปสรรคสำคัญ ตลอดจนกลยุทธ์ของคู่แข่ง
  • แผนการตลาด (Marketing Plan) : บอกทิศทางทิศทางการทำการตลาดที่จะเกิดขึ้นตลอดปี เช่น การสร้างการรับรู้แบรนด์ การออกสินค้าใหม่ และการวางแผนสื่อ ซึ่งจะครอบคลุมถึงงบประมาณที่จะใช้ในการทำให้แผนทั้งหมดดำเนินการได้สำเร็จ
  • แผนการขาย (Sales Plan) : เป็นแผนงานที่จะช่วยระบุให้เห็นวิธีการที่แบรนด์จะทำเพื่อบรรลุยอดขายที่ตั้งเป้าไว้ เช่น การเน้นขายสินค้าใหม่ ขยายฐานลูกค้า หรือระบุกลยุทธ์ส่งเสริมการขาย เป็นต้น
  • แผนการดำเนินงาน (Operations Plan) : เป็นส่วนที่อธิบายวิธีการดำเนินงาน ทั้งกระบวนการผลิต กระบวนการทำงาน บุคลากร เทคโนโลยี และการจัดการสินค้าคงคลัง
  • แผนการเงิน (Financial Plan) : ส่วนแผนที่ควบคุมรายรับ รายจ่ายของบริษัท การคาดการณ์ผลประกอบการ แหล่งเงินทุน รวมถึงปริมาณสภาพคล่องและเงินสดหมุนเวียน เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการต่อไปอย่างไม่ติดขัด
  • ภาคผนวก (Appendix) : ส่วนของข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกหรือหลักฐาน ประกอบการเสนอขอทุน ให้แผนมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
  • แผนฉุกเฉิน (Emergency Plan) : เป็นอีกส่วนของแผนธุรกิจ ที่จะช่วยระบุแนวทางการรับมือต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างฉุกเฉิน

3.เลือก Ecommerce Platform ที่เหมาะสม

สำหรับการทำธุรกิจออนไลน์ การเลือก Ecommerce Platform ที่เหมาะสมสำหรับแบรนด์และการเติบโตก็สำคัญเช่นเดียวกัน ซึ่งอาจพิจารณาจากเป้าหมายของแบรนด์ร่วมด้วยพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า หากเลือกได้ถูกต้องก็จะทำให้กลุ่มเป้าหมายพบเจอเราได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าเลือกได้ไม่เหมาะสมก็จะอาจจะเป็นการลงทุนที่เสียเปล่า ราวกับว่าเราลงแข่งขันผิดสนาม ทำให้ไม่มีทั้งผู้ชมและผู้ร่วมแข่งขัน อีกทั้งยังอาจทำให้เราสูญเสียความน่าเชื่อถือ หากเราเลือกแพลตฟอร์มที่ไม่ปลอดภัยรัดกุมมากพอด้วย โดยในปัจจุบันมีช่องทางการขายที่เป็นที่นิยม 3 รูปแบบ คือ

  • Marketplace เช่น Shopee และ Lazada มีจุดเด่นที่ระบบการซื้อขายที่ครบวงจรตั้งแต่เทมเพลตการสร้างร้านค้าไปจนถึงการจัดส่ง แต่อาจต้องหักส่วนแบ่งยอดขายให้แพลตฟอร์มและเป็นช่องทางที่มีการแข่งขันสูง
  • Chat & Shop ที่เห็นมากผ่านการขายของบนโซเชียลมีเดีย โดยมีแอดมินรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่จะให้คำปรึกษาและสร้างออเดอร์ให้ ทั้งนี้ก็อาจมีจุดอ่อนที่ความน่าเชื่อถือที่น้อยกว่าช่องทางการขายอื่น ๆ
  • Brand.com ซึ่งเป็นการสร้างเว็บไซต์ ecommerce มีชื่อโดเมนของตัวเอง เป็นช่องทางที่ธุรกิจหลาย ๆ เจ้าเลือกใช้ เพราะขึ้นชื่อในความน่าเชื่อถือ ปรับแต่งสร้างเอกลักษณ์ได้ และเป็นช่องทางที่สามารถเก็บข้อมูลและพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าได้ด้วยตัวเอง


ปัจจัยในการเลือกแพลตฟอร์มที่ใช่

เมื่อทราบถึงตัวเลือกที่หลากหลายแล้ว มาดูปัจจัยในการเลือกแพลตฟอร์มที่ใช่สำหรับธุรกิจของคุณได้ดังต่อไปนี้

งบประมาณ

งบประมาณที่แบรนด์มีเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงเพื่อจะเลือกแพลตฟอร์มที่ใช่ โดยแต่ละแพลตฟอร์มอาจมีค่าธรรมเนียมรายปี ค่าธรรมเนียมธุรกรรม ค่าใช้จ่ายเรื่องฟีเจอร์เสริมและปลั๊กอินที่แตกต่างกัน ดังนั้นต้องศึกษาข้อมูลเหล่านี้ให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ ร่วมกับการประเมินเป้าหมายหลักควบคู่เพื่อดูความคุ้มค่าในการลงทุน เช่น หากต้องการสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นและเสริมธุรกิจให้มีความน่าเชื่อถือ การสร้างเว็บไซต์ให้กับแบรนด์ก็เป็นกลยุทธ์ที่น่าลงทุนแม้ต้นทุนในระยะแรกอาจจะสูงกว่าช่องทางอื่นก็ตาม

ความยืดหยุ่นปรับแต่งได้

ความยืดหยุ่นปรับแต่งได้เป็นอีกหนึ่งข้อคำนึงสำหรับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากร้านค้าแต่ละร้านต่างมีเอกลักษณ์และอาจมีความต้องการที่ต่างกัน เช่น บ้างอาจต้องการนำเสนอสินค้าเฉย ๆ แต่บ้างก็ต้องการให้แพลตฟอร์มสามารถขายสินค้าได้ด้วย แพลตฟอร์มที่ดีจึงควรมีตัวเลือกรองรับความต้องการที่ครอบคลุม และสามารถปรับแต่งได้ทั้งดีไซน์ ฟังก์ชัน และโครงสร้างต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์การใช้งานอย่างง่ายดาย

นอกจากนี้แพลตฟอร์มยังควรเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจของเราได้ด้วย ทั้งในแง่ของฟังก์ชันการใช้งานและปริมาณการใช้งาน กล่าวคือ ตัวแพลตฟอร์มควรปรับขนาดเพื่อรองรับปริมาณการใช้งานที่มากขึ้น สร้างประสบการณ์การใช้งานดี ๆ ต่อลูกค้าเสมอ และสามารถพัฒนาให้มีฟังก์ชันซับซ้อนตามการเติบโตของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใช้งานง่าย

แพลตฟอร์มที่ดีควรใช้งานง่ายทั้งกับลูกค้าที่เข้าใช้บริการและคนที่ดูแลระบบ เพราะแน่นอนว่าความสะดวกและใช้งานง่ายสร้างประสบการณ์ดีต่อลูกค้าที่เข้าใช้บริการ ขณะเดียวกันหากระบบหลังบ้านมีความซับซ้อนน้อย ก็จะช่วยให้แอดมินสามารถทำงานได้ราบรื่น ประหยัดเวลา ไม่ต้องปวดหัวกับความยุ่งยากหรือต้องเรียนรู้ทักษะทางเทคนิคเพิ่มเติมเกินจำเป็น

มีความปลอดภัย

ข้อควรคำนึงข้อสุดท้าย คือ แพลตฟอร์มต้องมีความปลอดภัย เพราะการซื้อขายออนไลน์มีเรื่องของธุรกรรมทางการเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง แพลตฟอร์มที่ดีต้องมีระบบที่ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลทางการเงินและข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าได้ ยกตัวอย่างเช่น เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับรองมาตรฐาน PCI DSS ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลบัตรชำระเงิน หรือมีการป้องกันการเข้ารหัสสองชั้น มีการตรวจจับการฉ้อโกง รวมถึงมีระบบป้องกันการแฮ็กข้อมูลที่แข็งแกร่ง สิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยเสริมความปลอดภัย ยังเสริมความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณด้วย


เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ


4.เน้นการทำการตลาดออนไลน์

อีกสิ่งสำคัญในการจะสร้างธุรกิจ ecommerce ให้เติบโต คือ ต้องเน้นทำการตลาดออนไลน์ผ่านช่องทางต่าง ๆ ให้พร้อม จะมีวิธีไหนบ้างมาดูกันได้ด้านล่างนี้

ลงคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดีย

หมั่นลงคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดียของแบรนด์ให้สม่ำเสมอ ใช้ประโยชน์จากช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook Instagram และ Tiktok ให้เต็มที่ เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ ขยายโอกาสในการขาย และในโพสต์อาจมีการแปะลิงก์ของเว็บไซต์เพื่อเพิ่มการเข้าชมรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บไซต์ได้ด้วย โดยข้อคำนึงสำคัญ คือ ต้องศึกษารูปแบบคอนเทนต์ที่จะลงในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้ชัดเจน เพื่อให้ถูกจริตกับผู้ใช้แพลตฟอร์มนั้น ๆ และดูเป็นธรรมชาติ เข้าถึงง่าย

สร้างบทความ SEO

ขยันสร้างบทความ SEO และอัปโหลดคอนเทนต์เป็นประจำ เพื่อดันให้หน้าเว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ ของการค้นหาอย่างยั่งยืน โดยมีหลักสำคัญ เช่น การสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ถูกต้อง ตอบโจทย์ผู้อ่าน การวิเคราะห์และเลือกใช้คีย์เวิร์ดให้เหมาะสม พร้อมด้วยรูปประกอบและคำอธิบายรูปภาพให้ตรงเกณฑ์การให้คะแนน เป็นต้น

ลงทุนกับ Pay Per Click

หรือถ้าต้องการความสะดวก รวดเร็ว แบรนด์ก็สามารถลงทุนกับ Pay Per Click เพื่อให้หน้าเว็บไซต์ที่ต้องการติดอันดับการค้นหาหน้าแรกทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่งตัวบทความให้ตรงตามเกณฑ์การให้คะแนน โดยวิธีนี้จะเป็นการจ่ายเงินซื้อโฆษณาบนหน้า SERP ผ่านการประมูลคีย์เวิร์ด และมีราคาจ่ายต่อคลิก แต่ก็นับเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยสร้าง Engagement ให้เติบโตขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น


Ecommerce Platform


ใส่ใจลูกค้าเป็นสำคัญ

เคล็ดลับสุดท้ายที่จะช่วยให้แบรนด์โดดเด่นกว่าใคร คือ การใส่ใจลูกค้าเป็นสำคัญ เพราะกุญแจสำคัญของธุรกิจนั้นอยู่ที่ความพึงพอใจของลูกค้า โดยมีหลักเบื้องต้น เช่น

พัฒนาสินค้าและบริการ

พัฒนาสินค้าและบริการของแบรนด์ให้โดดเด่นเป็นที่น่าจับตามองอยู่เสมอ ติดตามเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือไม่ก็สร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างออกไป เพื่อให้แบรนด์ของเราก้าวล้ำเหนือคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม ควรคำนึงไว้เสมอว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์จะต้องเป็นไปเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากกว่าการเอาชนะแบรนด์อื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน และไม่เพียงแต่หมั่นพัฒนาสินค้าใหม่เท่านั้น แบรนด์จะต้องควบคุม ดูแลมาตรฐานสินค้าเก่าให้คงคุณภาพเดิม เพื่อรักษาจุดแข็งและทลายขีดจำกัดและจุดอ่อนเดิม ๆ ของแบรนด์ควบคู่กันไป

สร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้ลูกค้า

สร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการบริการที่ฉับไว มีทีมงานคอยตอบคำถามและให้ข้อมูลอยู่เสมอ พร้อมให้บริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ขณะเดียวกันหากเป็นเว็บไซต์ ecommerce ที่เน้นขายสินค้าและบริการ ก็ควรอำนวยความสะดวกในขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้า การชำระเงิน ตลอดจนการคืนสินค้าอย่างรวดเร็วด้วย นอกจากนี้ประสบการณ์ในการใช้บริการยังสร้างได้ผ่านการทำหน้าเว็บไซต์ให้เอื้อต่อการใช้งานทุกหน้าจอ มีดีไซน์ที่สบายตาและสามารถคลิกชมหน้าต่างต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบระเบียบ และหลีกเลี่ยงการเกิดเหตุการณ์เว็บไซต์ล่มให้ได้มากที่สุด

สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านช่องทาง Ecommerce Platform ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การตอบโต้กับลูกค้าแบบเรียลไทม์ การสร้างกิจกรรมเพิ่มการมีส่วนร่วม รวมถึงการสร้างบล็อกเพื่อแบ่งปันเรื่องราวของแบรนด์ เหล่านี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น และสามารถพัฒนาขึ้นเป็นความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ที่แน่นแฟ้นได้

ขณะเดียวกันการเปิดช่องทางให้ผู้บริโภคได้เข้ามารีวิวสินค้า ก็นับเป็นอีกทางในการสร้างสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า รวมถึงกับลูกค้าด้วยกันเอง ยิ่งถ้าแบรนด์มีการตอบกลับความเห็นด้วยความสุภาพ น้อมรับคำติชมเพื่อไปพัฒนา ก็จะยิ่งสร้างความประทับใจให้ลูกค้า และอาจส่งผลถึงการตลาดแบบปากต่อปากที่สร้างโอกาสเพิ่มยอดขายต่อไป

สรุป

การสร้างธุรกิจออนไลน์ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดและมั่นคงไม่ใช่เรื่องยาก หากวางแผนธุรกิจชัดเจน ศึกษาคู่แข่งอยู่เสมอ เลือกแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ และให้ใจกับลูกค้าเป็นสำคัญ เพียงเท่านี้ ไม่ว่าสมรภูมิของการตลาดออนไลน์จะดุเดือดขนาดไหน ก็ไม่ทำให้ธุรกิจของคุณสะเทือนอย่างแน่นอน

22 จำนวนเข้าชม