5 เทรนด์สำหรับการเปลี่ยนแปลง E-Commerce ในประเทศไทยปี 2025 31/Oct/2024 12:00 PM
5 เทรนด์สำหรับการเปลี่ยนแปลง E-Commerce ในประเทศไทยปี 2025
ในปี 2025 ที่จะถึงนี้การเปลี่ยนแปลงของการทำการตลาดออนไลน์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล ทั้งในฝั่งของ Social Comerce , Market Place, และเว็บไซต์ E-Commerce ที่จะต้องมีพัฒนาการ และ การเสริมทัพด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะตอบโจทย์ในการสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าออนไลน์ให้กับลูกค้า สำหรับใครที่เป็นผู้ประกอบการ นักการตลาด เจ้าของธุรกิจที่ต้องการโฟกัสในการสร้างโอกาสการขายสินค้าและการทำธุรกิจบนโลก E-Commerce ในบทความนี้ทาง SEP Platform เราได้ทำสรุปเทรนด์สำคัญสำหรับการแข่งขันบนโลก E-Commerce ไว้แล้ว
เทรนด์ที่ 1 : เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence)
ที่ทำให้ประสบการณ์การซื้อสินค้าออนไลน์ถูกออกแบบมาเป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคลมากขึ้น สำหรับปี 2025 เทคโนโลยี AI ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่อยู่ในกระแสเพียงอย่างเดียวแต่กลายเป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่มีเว็บไซต์ E-Commerce ก็เริ่มนำ AI มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผู้บริโภคได้ทำบนเว็บไซต์ไว้
อีกหนึ่งส่วนงานที่นำนวัตกรรมของ AI มาช่วยนั้นก็คือการใช้ Chatbot เพื่อประหยัดเวลาในการช่วยเหลือและให้ข้อมูลที่สำคัญกับลูกค้า รวมถึง AI จะเข้ามามีบทบาทที่นำข้อมูลเหล่านั้นไปวิเคราะห์ต่อยอดในการทำคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ปัญหาของลูกค้าได้อีกด้วย
เทรนด์ที่ 2 : ขาขึ้นของ Social Commerce (การค้าขายผ่านโลกโซเชี่ยลมีเดีย)
สถิติข้อมูลจาก shopify กล่าวไว้ว่า ในปี 2025 ที่กำลังจะถึงนี้ จะมีการซื้อสินค้าผ่าน social commerce ถึง 1.2 ล้านล้าน ดอลล่าร์สหัรัฐจากผู้บริโภคทั่วโลก และส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเจนเนเรชั่น แซด ( Generation Z) และ มิลเลเนียน ( Millenials)
และ ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังจากช่วงเวลาโควิด ในช่วงปี 2022-2023 ที่ผ่านมาผู้บริโภคมีการเปลี่ยน พฤติกรรมในการซื้อสินค้าบนโลกออนไลน์มากขึ้น โดยทิศทางก็ไปในทางของ Social Commerce เพราะเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า Shoppertertainment ที่ฟีเจอร์ Live มีส่วนสำคัญในการทำหน้าที่กระตุ้นทั้งการเข้าของคอนเทนต์ การสร้างปฏิสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง และ ไปถึงการขายสินค้า เพราะฉะนั้นแล้วหากแบรนด์ไหนที่อยากจะลุยการสร้างยอดขายผ่านโลก E-Commerce นั้น Social Commerce ก็ยังถือว่าเป็นประตูอีกบานที่ตอบโจทย์ทั้งการทำให้คนรู้จักแบรนด์ของเรามากขึ้น
เทรนด์ที่ 3 : Mobile First Commerce
Mobile First เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ หากแบรนด์ไหนที่อยากขยับไปสร้างยอดขายผ่านเว็บไซต์ E-Commerce ธุรกิจ Mobile First ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการมีแอพลิเคชั่นสำหรับธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงการทำเว็บไซต์ E-Commerce ของเราให้ตอบโจทย์ Mobile First อีกด้วย
การลงทุนสร้างเว็บไซต์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานให้เหมาะสมผ่านมือถือ ก็จะเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจเราเข้าถึงกลุ่ม shopper หรือ ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ E-Commerce ธุรกิจของเรา ที่มีการใช้งานผ่านมือถือได้มากขึ้น และเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้เราสามารถประหยัดต้นทุนก่อนที่จะตัดสินใจสร้าง แอพพิเคชั่น เพราะว่าการลงทุนแอพลิเคชั่นเป็นการลงทุนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น
- ต้นทุนการสร้าง
- ต้นทุนการพัฒนา และ
- ต้นทุนการทำการตลาด
- ต้นทุนการบริการหลังบ้าน
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเราสามารถทดลองโดยการสร้างเว็บไซต์ E-Commerce สำหรับธุรกิจที่เป็นในลักษณะก่อน web app เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลและทดสอบพฤติกรรมต่าง ๆ ของผู้บริโภค พร้อมกับการปรับเปลี่ยนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ได้รวดเร็วมากขึ้น
เทรนด์ที่ 4 : Sustainability Trend เทรนด์ของพฤติกรรมการช้อปปิ้งเพื่อความยั่งยืนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ตั้งแต่ปี 2023-2024 ที่ผ่านมา Trend ของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการเลือกใช้สินค้าอุปโภคบริโภคที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนให้กับโลกนั้นเป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการซื้อสินค้ามือสอง การเช่าสินค้า ซึ่งสินค้าในที่นี้มีตั้งแต่แบบ สินค้าที่ซื้อง่ายขายง่ายราคาจับต้องได้ไปจนถึง สินค้าชิ้นใหญ่อย่างอสังหาริมทรัพย์ ที่คนเริ่มนิยมมองหาอะไรที่ไม่ต้องใหม่ แต่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องของการประหยัดทั้งทุนทรัพย์และพลังงานด้วย
ในช่วงปีที่ผ่านมาเราจะได้ยินคำว่า Environment , Social และ Governance หรือการพัฒนาธุรกิจ องค์กรให้ตอบโจทย์การรักษาสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล และแน่นอนว่าหลัก ๆ เราจะเริ่มเห็นแคมเปญการตลาดของแบรนด์หลายแบรนด์ที่มีการตอบโจทย์เรื่องของการรักษ์โลก โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ทีช่วยประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อน เป็นต้น และ พฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่นั้นก็เริ่มพิจารณาปัจจัยนี้เป็นหลักก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าจากธุรกิจ
เทรนด์ที่ 5 : Omnichannel Ecommerce
Omnichannel คือ การเชื่อมการสื่อสารผ่านช่องทางตั้งแต่ออฟไลน์ ไปถึงออนไลน์ และ ย้อนจากออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์ให้เป็นเรื่องราวเดียวกันไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่น การเก็บข้อมูลของลูกค้า ลูกค้าหรือผู้บริโภคจะมีความคาดหวังต่อแบรนด์ว่าจะมีประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกัน และ เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นฝั่งหน้าร้านออฟไลน์หรือออนไลน์ก็ตาม และมีการเสริมประสบการณ์เสมือนจริงมากขึ้นในโลกออนไลน์ ผ่านเทคโนโลยี AR (Augment Reality ) และ VR ( Virtual Reality ) ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแฟชั่น โรงพยาบาลการรักษา หรือแม้แต่ อสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้การตัดสินใจซื้อสินค้าเกิดขึ้นได้ไวขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา และนี่ คือ 5 เทรนด์สำคัญสำหรับการทำการตลาดบนโลก E-Commerce ในปี 2025
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นการทำการตลาดผ่าน E-Commerce อย่างแข็งแรงสามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ SEP